อยากเปิด EV Charger ต้องอ่าน! ครบเรื่อง “ตู้ชาร์จ” พร้อมราคา ก่อนตัดสินใจลงทุน

เปิด Ev Charger

ธุรกิจสถานีชาร์จ รถไฟฟ้า กำลังกลายเป็นโอกาสใหม่ที่นักลงทุนยุคนี้ไม่ควรมองข้าม! ในช่วงที่กระแสรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงแบบฉุดไม่อยู่ ผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจที่เติบโตเร็ว กำไรดี และได้รับแรงหนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน การเปิดสถานีชาร์จรถไฟฟ้า จึงถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ที่ตอบโจทย์อนาคตได้

ในวันนี้ Friendly Charger จะพาคุณรู้ลึกเรื่องราคาตู้ชาร์จ EV แบบละเอียด ครบทั้ง AC และ DC พร้อมเทคนิควางแผนลงทุนเบื้องต้น อ่านจบพร้อมลุยธุรกิจได้ทันที!

ประเภทของตู้ชาร์จ EV และเรทราคาที่ควรรู้

ตู้ชาร์จ EV มีหลากหลายประเภท โดยแต่ละแบบมีราคาต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฟังก์ชัน การใช้งานกำลังไฟที่รองรับ

1. AC Charger (ตู้ชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ)

  • เหมาะสำหรับบ้าน คอนโด ร้านค้า 
  • กำลังไฟ 7 – 22 kW
  • ราคาประมาณ 30,000 – 80,000 บาท

2. DC Charger (ตู้ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง)

  • เหมาะสำหรับ สถานีบริการ ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า
  • กำลังไฟ 50 – 180 kW หรือมากกว่า
  • ราคาประมาณ 300,000 – 1,500,000 บาท ขึ้นอยู่กับสเปก

ธุรกิจสถานีชาร์จ EV ไม่ใช่แค่ติดตั้งตู้แล้วรอรายได้

หลายคนอาจเข้าใจว่าแค่ซื้อตู้มาติดตั้งก็เพียงพอ แต่ความจริงแล้วการทำธุรกิจนี้ให้สำเร็จต้องเข้าใจองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

1. ระบบหลังบ้าน (Back-End Management System)

ระบบที่ใช้ควบคุมการทำงานของตู้ชาร์จ เช่น

  • ตรวจสอบสถานะตู้
  • คิดเงินแบบอัตโนมัติ
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้จองและจ่ายเงิน
  • รายงานยอดการใช้งานและปัญหาแบบ Real-Time

2. รูปแบบการชำระเงิน

  • บัตรเครดิต/เดบิต
  • QR Code Payment (PromptPay)
  • ระบบสมาชิก (Membership/Wallet) การมีระบบเงินที่ง่ายและปลอดภัยจะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานได้มากขึ้น

3. แอปพลิเคชันและการขึ้นแผนที่

  • ต้องขึ้นทะเบียนกับแอปชาร์จรถ EV เช่น EleX, EV Station, EA Anywhere และ Google Maps
  • ยิ่งมีคนเห็นสถานีของคุณมากเท่าไร โอกาสถูกเลือกใช้บริการก็ยิ่งสูงเท่านั้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาตู้ชาร์จ

  • กำลังไฟ (kW) ยิ่งชาร์จเร็ว ราคายิ่งสูง
  • แบรนด์/มาตรฐานอุปกรณ์ แบรนด์ยุโรปหรือญี่ปุ่นมักราคาสูงกว่าแบรนด์จีน
  • ระบบจัดการหลังบ้าน (Back-End System) ถ้ามีระบบบริหารจัดการแบบ Cloud, ระบบจ่ายเงิน ฯลฯ ราคาจะเพิ่มขึ้น
  • อุปกรณ์เสริม เช่น สายชาร์จ, ระบบป้องกันไฟเกิน, กล้องวงจรปิด, ระบบ RFID

กลยุทธ์เลือกทำเล สำหรับสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

ทำเล คือ หัวใจของธุรกิจ EV Charger เพราะการมีจุดชาร์จที่ใกล้ สะดวก มองเห็นง่ายคือสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการมากที่สุด

ทำเลที่แนะนำ

  • ปั๊มน้ำมันริมถนนใหญ่
  • โรงแรมและรีสอร์ต
  • ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต
  • คอนโดและออฟฟิศ
  • ร้านกาแฟ คาเฟ่ยอดนิยม

แนวโน้มตลาด EV ในประเทศไทย

ยอดขายรถ EV ปี 2567 โตกว่า 400% จากปีก่อน โดยในปี 2568 คาดว่ารถยนต์ EV จดทะเบียนใหม่ในไทย เกิน 100,000 คัน

ปัจจุบันในไทยยังมีสถานีชาร์จ ไม่ถึง 5,000 หัวชาร์จทั้งประเทศ ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ถือเป็นโอกาสทองที่ใครเริ่มก่อนมีสิทธิ์ครองตลาดได้เร็ว!

สิทธิประโยชน์และมาตรฐานจากภาครัฐ

ธุรกิจ EV Charger นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจัง โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีและการสนับสนุนจาก BOI สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังมี มาตรการส่งเสริมจากการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อผลักดันการขยายตัวของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ ยังมีการ บังคับใช้มาตรฐาน มอก. สำหรับอุปกรณ์ชาร์จ EV เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานมีความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนด

ค่าใช้จ่ายแฝงที่นักลงทุนมักมองข้าม

  • ค่าไฟฟ้าเรทธุรกิจ (อาจสูงกว่าบ้านพัก)
  • ค่าบำรุงรักษาตู้ชาร์จต่อปี (ประมาณ 10,000 – 50,000 บาท)
  • ค่าเช่าพื้นที่ (ถ้าไม่ได้ใช้พื้นที่ตนเอง)
  • ค่าธรรมเนียมการใช้ระบบซอฟต์แวร์ (Back-End)
รายการ ประมาณการราคา (บาท)
ตู้ชาร์จ AC/DC 30,00 – 150,000
ติดตั้งระบบไฟฟ้า 20,00 – 300,000
ระบบหลังบ้าน/ซอฟต์แวร์ 10,000 – 100,000
ดำเนินการ/ขออนุญาต ขึ้นอยู่กับพื้นที่และหน่วยงาน

รวมแล้วอาจใช้เงินลงทุนตั้งแต่ 100,000 – 2,000,000 บาท ต่อจุดชาร์จ ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ

คุ้มไหมถ้าจะลงทุนทำสถานีชาร์จรถไฟฟ้า?

  • คุ้มเพราะแนวโน้มการใช้รถ EV เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • ภาครัฐส่งเสริมธุรกิจ EV ด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี
  • ธุรกิจ EV Charger สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income จากค่าบริการชาร์จ
  • ต่อยอดธุรกิจเดิม เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟ คาเฟ่ โรงแรม ได้อย่างลงตัว
เปิด ev charge ราคา

วางแผนลงทุนสถานีชาร์จ EV ต้องเริ่มอย่างไรบ้าง?

  • เลือกทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ใกล้ถนนใหญ่ แหล่งท่องเที่ยว คอนโด ฯลฯ
  • สำรวจความต้องการของผู้ใช้งานในพื้นที่
  • ปรึกษาผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญด้านการติดตั้ง EV Charger
  • ตรวจสอบงบประมาณและวางแผน ROI อย่างรอบคอบ

คำถามที่นักลงทุนมักถามเมื่อจะเปิดสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

Q: ควรเลือก ระบบชาร์จแบบ AC หรือ DC ดี ?
A: ถ้าเริ่มธุรกิจสถานีชาร์จรถแบบเล็ก งบจำกัด แนะนำแบบ AC แต่ถ้าต้องการลูกค้ากลุ่มใหญ่และชาร์จเร็วเลือก DC

Q: ต้องลงทุน EV Charger กี่จุดถึงจะคุ้ม?
A: อย่างน้อย 2 – 4 จุด สถานี เพื่อให้ลูกค้าไม่รอนาน?

Q: ถ้าเริ่มเล็กแล้วค่อยขยายได้ไหม?
A: ได้! เริ่มจาก AC 1 – 2 หัว แล้วอัปเกรดเป็น DC เมื่อมีลูกค้าเพิ่มขึ้น

อยากเริ่มลงทุน EV Charger ติดต่อ Friendly Charger ได้เลย!

Friendly Charger เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่ให้บริการครบวงจรตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องระบบที่เหมาะสมชนิดตู้ การวางแผนงบประมาณ เพื่อให้คุณมั่นใจในการลงทุน นอกจากนี้เรายังมีบริการหลังขายที่ครอบคลุม ตั้งแต่การบำรุงรักษา การซ่อมแซม ไปจนถึงระบบซอฟต์แวร์จัดการสถานีและแอปพลิเคชันที่ช่วยรองรับธุรกิจของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

Scroll to Top