ติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ราคาเท่าไร? โรงแรม หอพัก เริ่มแค่ 2 หมื่นกว่า คืนทุนไว กำไรทันใจในปีเดียว!

“ธุรกิจติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับโรงแรม หอพัก หรือคอนโดเริ่มต้นได้ง่ายกว่าที่คิด ด้วยงบเพียง 2 หมื่นกว่าบาทก็สามารถติดตั้ง EV Charger พร้อมระบบจัดการและรับรายได้อัตโนมัติได้ทันที เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่จอดรถว่างและต้องการเปลี่ยนเป็นรายได้แบบ Passive Income โดยไม่ต้องใช้ระบบไฟสามเฟส ลูกค้าแค่สแกน QR จ่ายเงิน แล้วเริ่มชาร์จ รายได้เฉลี่ยเดือนละ 6,000 บาท คืนทุนได้ใน 5–6 เดือน ถ้าทำเลดีอาจคืนทุนภายใน 3 เดือน ถือเป็นโอกาสลงทุนที่ตอบโจทย์ยุค EV อย่างแท้จริง”

ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง และจำนวนผู้ใช้ EV เพิ่มขึ้นทุกเดือน เจ้าของโรงแรม หอพัก หรือคอนโดไม่ควรมองข้ามโอกาสในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมสร้างรายได้จากพื้นที่จอดรถว่างๆ ด้วยการติดตั้ง EV Charger ที่วันนี้เริ่มต้นได้ง่าย ใช้งบน้อย และคืนทุนได้ในเวลาไม่ถึงปี!

ระบบชาร์จของ https://www.friendlycharger.com เริ่มต้นเพียง  2 หมื่นกว่า ก็เปิดได้

ทำไมโรงแรม หอพัก ควรมีสถานีชาร์จ EV ในวันนี้?

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ใช่แค่เทรนด์ใหม่ แต่คือ “อนาคตของการเดินทาง” ที่ผู้บริโภคทั่วโลกต่างให้การยอมรับ และประเทศไทยเองก็เช่นกัน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มีพฤติกรรมมองหาที่พักหรือจุดจอดที่มีสถานีชาร์จรองรับไว้ให้บริการก่อนเสมอ

ดังนั้น หากคุณเป็นเจ้าของโรงแรม หอพัก หรือที่พักอื่นๆ นี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะสร้างความได้เปรียบด้วยการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้

เพิ่มยอดจอง เพิ่มความพึงพอใจให้แขกและผู้พัก

ลูกค้าที่ขับรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากต้องการความมั่นใจว่าสถานที่พักของเขาจะมีจุดชาร์จให้ใช้งาน พวกเขาจะเลือกที่พักที่มีสถานีชาร์จก่อนที่อื่นเสมอ เพราะไม่อยากเสียเวลาไปแวะชาร์จที่อื่นระหว่างทาง หรือกังวลเรื่องแบตเตอรี่ระหว่างการเดินทางไกล หากโรงแรมหรือหอพักของคุณมี EV Charger พร้อมให้บริการ ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพิ่มความประทับใจ และมีโอกาสกลับมาใช้บริการอีกในอนาคต ที่สำคัญคือยังช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกแนะนำให้กับลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ต่อไปอีกด้วย

ลูกค้า EV เลือกที่พักจากจุดชาร์จจริงหรือ?

จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า กลุ่มลูกค้าที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 70% เลือกที่พักที่มีสถานีชาร์จ EV ไว้ให้บริการก่อนเสมอ เพราะปัจจัยนี้กลายเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อความสะดวกและความสบายใจในการเดินทาง หากที่พักของคุณยังไม่มีจุดชาร์จ คุณอาจกำลังพลาดโอกาสสำคัญในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและพร้อมใช้บริการที่พักของคุณ โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เช่น กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้เดินทางแบบครอบครัวที่เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง สรุปง่ายๆ คือ ในวันนี้การมีสถานีชาร์จ EV ไม่ใช่แค่บริการเสริม แต่คือ สิ่งที่ธุรกิจโรงแรม หอพัก หรือที่พักยุคใหม่ควรมี เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่แล้ว ยังช่วยเพิ่มรายได้แบบ Passive Income ที่สร้างความได้เปรียบอย่างชัดเจนให้กับที่พักของคุณตั้งแต่วันนี้เลยครับ!

สถานีชาร์จรถไฟฟ้าสำหรับโรงแรมและหอพัก ต้องลงทุนเท่าไร?

เชื่อว่าคำถามสำคัญสำหรับผู้ประกอบการหลายคนคือ “ราคาเท่าไรถึงจะเริ่มได้จริง?” มาดูกันชัดๆ ว่าปัจจุบันนี้ การลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อธุรกิจโรงแรม หอพัก หรืออาคารที่พักทั่วไป มีค่าใช้จ่ายเท่าไรกันแน่

ระบบชาร์จของ https://www.friendlycharger.com ในโรงแรม

เปิดราคาจริง พร้อมติดตั้ง เริ่มแค่ 2 หมื่นกว่าๆ

สถานีชาร์จรถไฟฟ้ามีให้เลือกหลายรุ่น หลายประเภท แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับโรงแรมและหอพักที่พักค้างคืน คือ เครื่องชาร์จ AC แบบ Normal Charge ขนาด 7kW

AC Normal Charge 7kW – คุ้มค่า คืนทุนไว!

  • ราคา: 27,600 บาท/จุด (รวมติดตั้งในระยะไม่เกิน 5 เมตร)
  • ขาตั้ง (Option): เพิ่ม 6,000 บาท (หากไม่มีจุดยึดกับผนัง)
  • ค่าเดินสายไฟเพิ่มเติม: 1,000 บาท/เมตร (กรณีระยะสายไฟเกิน 5 เมตร)

แนะนำสำหรับ:อาคารจอดรถของคอนโด, สำนักงาน, โรงแรม, ที่พักที่ต้องการเพิ่มมูลค่าและดึงดูดลูกค้ากลุ่ม EV, ธุรกิจที่เน้นลงทุนต่ำ คืนทุนเร็ว ภายใน 12 เดือน เหมาะกับพื้นที่ที่มีการจอดรถระยะยาว ลูกค้าสามารถชาร์จขณะพักผ่อนหรือทำธุระ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมและหอพักที่ลูกค้าค้างคืน

แต่ถ้าคุณต้องการสถานีชาร์จแบบเร็ว (Fast Charge) เพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีเวลาน้อย ก็มีตัวเลือก เครื่องชาร์จ DC แบบ Fast Charge 30kW เช่นกัน แต่ราคาจะสูงขึ้น

 DC Fast Charge 30kW – ดึงดูดลูกค้า ใช้งานต่อเนื่อง!

  • ราคา: 195,000 บาท/จุด (รวมติดตั้งเรียบร้อย)

แนะนำสำหรับ:

  • พื้นที่ที่มีลูกค้าหมุนเวียนสูง และต้องการชาร์จแบบรวดเร็ว
  • คืนทุนประมาณ 5-6 ปี แต่เพิ่มศักยภาพธุรกิจและสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน

จากข้อมูล AC Normal Charge 7kW  และ DC แบบ Fast Charge 30kW หากธุรกิจของคุณเป็นโรงแรม คอนโด หรือมีที่จอดรถเป็นของตัวเอง และต้องการลงทุนต่ำ คืนทุนไว AC Charger แบบ 7kW คือทางเลือกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ต้นทุนที่เจ้าของที่พักควรรู้ มีค่าอะไรบ้าง?

การติดตั้งสถานีชาร์จ EV ไม่ได้มีแค่ราคาเครื่องชาร์จเพียงอย่างเดียว เจ้าของโรงแรมหรือหอพักควรรู้จักค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น:

  • ค่าเดินสายไฟเพิ่มเติม: กรณีจุดติดตั้งห่างไกลจากแหล่งจ่ายไฟ (ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท/เมตร)
  • ค่าขาตั้ง: หากต้องการติดตั้งแบบตั้งพื้น (6,000 บาทโดยประมาณ)
  • ค่าอินเทอร์เน็ตและระบบจัดการ: (บางแพลตฟอร์มให้ฟรี เช่น Friendly Charge แต่บางเจ้าอาจมีค่าบริการรายเดือนหรือรายปีเพิ่มเติม)
  • ค่าธรรมเนียมธุรกรรม: เลือกแพลตฟอร์มที่ค่าธรรมเนียมต่ำ เช่น Friendly Charge ค่าธรรมเนียมเพียง 2.9% ซึ่งถูกที่สุดในตลาด (ทั่วไปอยู่ที่ 8-20%)

หากคุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ค่าใช้จ่ายแฝงจะน้อยลง และคุณจะสามารถคืนทุนได้ไวมากขึ้นแน่นอน

เมื่อได้เห็นข้อมูลเหล่านี้แล้ว เจ้าของโรงแรมและหอพักจะเห็นได้ชัดว่า การลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จ EV วันนี้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ใช้ต้นทุนไม่สูง และสามารถคืนทุนได้รวดเร็วภายในปีแรก พร้อมทำกำไรต่อเนื่องยาวๆ ไปอีกหลายปี

ติดตั้งจุดชาร์จ EV ในโรงแรม/หอพัก คืนทุนไวแค่ไหน?

อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่เจ้าของโรงแรมและหอพักอยากรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนสถานีชาร์จรถไฟฟ้าก็คือ “คืนทุนได้เร็วแค่ไหน?” คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือ หากคุณติดตั้งจุดชาร์จ EV แบบ AC ขนาด 7kW ซึ่งเหมาะกับลูกค้าที่พักค้างคืน คุณสามารถคืนทุนได้รวดเร็วภายในไม่ถึงปีแน่นอน ลองมาดูตัวอย่างการคำนวณจริงกันเลยครับ:

ตัวอย่างคำนวณง่ายๆ ลงทุนหลักหมื่น คืนทุนในปีเดียว

สมมติว่าคุณลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแบบ AC ขนาด 7kW ซึ่งมีราคาประมาณ 27,600–30,000 บาทต่อจุด และกำหนดราคาค่าชาร์จที่เหมาะสมกับโรงแรมหรือหอพัก เช่น ชั่วโมงละ 50 บาท

ลองดูตัวเลขง่ายๆ ด้านล่างนี้:

  • ราคาค่าชาร์จ: 50 บาทต่อชั่วโมง
  •  ลูกค้าเฉลี่ย: วันละ 1 คัน (ซึ่งเป็นจำนวนที่พบได้ทั่วไปในที่พักขนาดเล็ก)
  • เฉลี่ยการชาร์จ: 4 ชั่วโมงต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง
  • รายได้ต่อวัน: 50 บาท × 4 ชั่วโมง = 200 บาท
  • รายได้ต่อเดือน: 200 บาท × 30 วัน = 6,000 บาท
  • ระยะเวลาคืนทุน: 30,000 บาท ÷ 6,000 บาท = ประมาณ 5 เดือน เท่านั้น

หากทำเลที่พักของคุณมีลูกค้าใช้บริการมากกว่านี้ เช่น วันละ 2 คัน รายได้ต่อเดือนจะเพิ่มเป็นเดือนละ 12,000 บาท ซึ่งแปลว่าคุณจะคืนทุนได้รวดเร็วมากขึ้นภายในเวลาแค่ 3 เดือน เท่านั้น

ปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยให้คืนทุนไวกว่า 1 ปี?

แน่นอนว่าการคืนทุนไวหรือช้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่หลักๆ ที่จะช่วยให้คุณคืนทุนได้เร็วก็คือ:

  •  เลือกทำเลติดตั้งที่ลูกค้าใช้งานแน่นอน เช่น ใกล้ล็อบบี้โรงแรม ใกล้ที่จอดรถหลัก หรือหน้าทางเข้าหอพัก
  • ตั้งราคาค่าชาร์จที่เหมาะสม ไม่แพงเกินไป และไม่น้อยเกินไป เพื่อให้ลูกค้าพร้อมใช้งานทุกวัน
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงเพิ่มเติม เลือกใช้แพลตฟอร์มที่ค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด เช่น Friendly Charge ที่มีค่าธรรมเนียมเพียง 2.95%
  • เลือกเครื่องชาร์จรุ่นที่เหมาะสมที่สุด เช่น AC 7kW ซึ่งมีราคาเหมาะสม ติดตั้งง่าย ใช้ไฟบ้านธรรมดา และเหมาะกับการใช้งานข้ามคืนในโรงแรมหรือหอพักที่สุด

หากบริหารจัดการและวางแผนดี คุณจะเห็นได้ชัดว่าธุรกิจสถานีชาร์จ EV คืนทุนได้ไวมาก และเริ่มสร้างกำไรจริงตั้งแต่ปีแรกที่ติดตั้ง!

แพลตฟอร์มชาร์จของ https://www.friendlycharger.com

อยากเริ่มลงทุนสถานีชาร์จ EV ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

ถ้าคุณกำลังตัดสินใจว่าจะเริ่มลงทุนในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าดีไหม และอยากรู้ว่า “ต้องเตรียมอะไรบ้างถึงจะเริ่มได้ทันที?” ข่าวดีคือ… คุณไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคลึก ไม่ต้องมีทีมวิศวกร ไม่ต้องขอระบบไฟฟ้า 3 เฟส และที่สำคัญ… ไม่ต้องมีงบหลักแสน

มาดูกันว่าคุณต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนเริ่มต้นลงทุนจริง:

ระบบไฟฟ้าและพื้นที่ที่เหมาะสม

  •  มีไฟบ้านปกติ (1 เฟส) ก็เริ่มได้ เครื่องชาร์จ AC 7kW ใช้ไฟเทียบเท่าแอร์บ้านทั่วไป ไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟส
  • มีจุดจอดรถที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น หน้าร้าน หน้าหอพัก ใต้คอนโด หรือข้างอาคารสำนักงาน โดยควรมีหลังคาหรือผนังสำหรับยึดเครื่อง (หรือใช้ขาตั้ง)
  • เดินสายไฟจากตู้ไฟหลักได้สะดวก แพ็กเกจติดตั้งส่วนใหญ่จะรวมระยะสายไฟประมาณ 5 เมตร หากมากกว่านี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย

ระบบชำระเงินและบริหารจัดการที่คุณต้องรู้

  •  เลือกระบบที่ลูกค้าใช้งานง่าย ไม่ต้องโหลดแอป ระบบที่ดีควรให้ลูกค้าแค่สแกน QR → จ่ายเงิน → เริ่มชาร์จได้ทันที เช่นระบบของ Friendly Charge
  • เลือกแพลตฟอร์มที่มี Dashboard ให้ดูรายได้ เจ้าของสามารถเช็กสถานะเครื่อง รายได้ และยอดธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
  • พิจารณาค่าธรรมเนียมระบบให้ดี แพลตฟอร์มบางรายคิดค่าธรรมเนียม 8–20% ต่อธุรกรรม แต่แพลตฟอร์มอย่าง Friendly Charge คิดเพียง 2.95% ซึ่งช่วยให้คืนทุนได้ไวขึ้นชัดเจน

เอกสาร / ขั้นตอนอื่นๆ ที่ควรรู้

  • ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ก็เริ่มได้ (ถ้าเป็นการให้บริการภายในธุรกิจตนเอง)
  • ไม่ต้องขออนุญาตกฟภ./MEA เพิ่มเติม หากใช้ไฟไม่เกินขนาดมิเตอร์ที่มีอยู่
  • ถ้าต้องการออกใบกำกับภาษีหรือให้บริการบุคคลภายนอกอย่างเป็นทางการ ควรแจ้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเพื่อจัดการเอกสารให้ครบถ้วน

เริ่มต้นง่ายกว่าที่คิด ขอแค่ “มีพื้นที่ มีปลั๊ก และมีใจ” คุณก็สามารถเปลี่ยนจุดจอดธรรมดาให้กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่แบบยั่งยืนได้ทันที!

สรุป: งบหลักหมื่น ลงทุนก่อน กำไรก่อน ไม่ต้องรอใคร!

ธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของปั๊ม หรือมีงบหลักแสนก็เริ่มต้นได้ แค่คุณมีที่จอดรถ มีไฟบ้านทั่วไป และมองเห็นโอกาส คุณก็สามารถเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็น “จุดทำเงิน” ได้ทันที

เริ่มต้นเพียง 2 หมื่นกว่าบาท คุณจะได้เครื่องชาร์จ EV พร้อมระบบจัดการเต็มรูปแบบ ใช้งานง่าย ลูกค้าสแกนจ่ายได้เลยแบบไม่ต้องโหลดแอป รายได้เข้าบัญชีคุณแบบอัตโนมัติทุกครั้งที่มีคนมาใช้งาน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของโรงแรม หอพัก คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือแม้แต่ร้านค้าเล็กๆ

นี่คือโอกาสที่คุณไม่ควรปล่อยให้ผ่านไป เพราะในยุคที่คนใช้รถ EV เพิ่มขึ้นทุกเดือน… คนที่ “ลงทุนก่อน” คือคนที่ “กำไรก่อน” อย่ารอให้ที่จอดว่างเปล่า ลองเปลี่ยนมันให้ทำเงินตั้งแต่วันนี้

Scroll to Top